ใช้แผนข้อมูล

Android 9 ช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถระบุรายละเอียดแพ็กเกจที่ถูกต้องแก่ผู้ใช้โดยตรงในแอปการตั้งค่า เพื่อลดความสับสนของผู้ใช้และลดการโทรขอรับการสนับสนุน ในอุปกรณ์ที่ใช้ Android 4.0 ขึ้นไป ผู้ใช้สามารถกำหนดค่ารายละเอียดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการแต่ละรายด้วยตนเองในแอปการตั้งค่า เช่น การตั้งค่าคำเตือนและขีดจำกัดเพื่อจัดการปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต

การกําหนดค่าตามผู้ให้บริการ

หากต้องการกำหนดค่าแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการสามารถเพิ่มฟังก์ชันการทำงานลงในแอป Android ที่มีอยู่ได้โดยใช้ SubscriptionPlan API API เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อรองรับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตประเภทต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงทั้งแพ็กเกจตามรอบและแพ็กเกจแบบไม่ตามรอบ รวมถึงแพ็กเกจที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป

ต่อไปนี้คือตัวอย่างวิธีกำหนดค่าแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตประเภททั่วไปที่เรียกเก็บเงินรายเดือน

SubscriptionManager sm =
    context.getSystemService(SubscriptionManager.class);
sm.setSubscriptionPlans(subId, Lists.newArrayList(
    SubscriptionPlan.Builder.createRecurringMonthly(
            ZonedDateTime.parse("2016-12-03T10:00:00Z"))
        .setTitle("G-Mobile")
        .setDataLimit(4_000_000_000L,
            SubscriptionPlan.LIMIT_BEHAVIOR_BILLED)
        .setDataUsage(200_493_293L, dataUsageTimestamp)
        .build()));

อุปกรณ์จะอนุญาตให้แอปกำหนดค่าแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตภายใต้เงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้เท่านั้น

  • ซิมการ์ดได้กำหนดแอปที่จัดการได้อย่างชัดเจนตามที่ระบุโดย SubscriptionManager.canManageSubscription()
  • ผู้ให้บริการได้ส่งค่า KEY_CONFIG_PLANS_PACKAGE_OVERRIDE_STRING ผ่าน CarrierConfigManager เพื่อระบุว่าแอปใดสามารถจัดการแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการได้
  • อุปกรณ์มีแอปที่สร้างไว้ในอิมเมจระบบซึ่งมีสิทธิ์ MANAGE_SUBSCRIPTION_PLANS

เงื่อนไข 2 ข้อแรกช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปของผู้ให้บริการได้โดยไม่ต้องติดตั้งแอปดังกล่าวลงในภาพระบบที่โรงงานล่วงหน้า ระบบปฏิบัติการบังคับใช้ (และ CDD กำหนด) ว่ารายละเอียดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่กำหนดค่าไว้ทั้งหมดจะได้รับการปกป้องและพร้อมให้บริการแก่แอปของผู้ให้บริการที่ระบุรายละเอียดให้กับระบบปฏิบัติการตั้งแต่แรกเท่านั้น

การออกแบบที่แนะนำอย่างหนึ่งคือแอปของผู้ให้บริการจะใช้บริการบำรุงรักษาที่ไม่ได้ใช้งานเพื่ออัปเดตรายละเอียดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตทุกวัน แต่ผู้ให้บริการสามารถใช้กลไกที่หลากหลายได้ เช่น การรับรายละเอียดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตผ่านข้อความ SMS ภายในของผู้ให้บริการ บริการบำรุงรักษาขณะไม่ทำงานเหมาะที่จะใช้กับงาน JobScheduler ที่ใช้ setRequiresDeviceIdle() และ setRequiresCharging()

การใช้งานตามระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการใช้รายละเอียดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่ SubscriptionPlan API ระบุไว้ด้วยวิธีต่อไปนี้

  • รายละเอียดแพ็กเกจจะแสดงผ่านแอปการตั้งค่าเพื่อแสดงการใช้ข้อมูลที่ถูกต้อง ต่อผู้ใช้และให้ Deep Link โดยตรงในแอปของผู้ให้บริการ สำหรับโอกาสในการอัปเกรด/ขายอัปเซล
  • คำเตือนการใช้ข้อมูลและเกณฑ์ขีดจำกัดการแจ้งเตือนจะได้รับการกำหนดค่าโดยอัตโนมัติตามรายละเอียดของแพ็กเกจ โดยคำเตือนจะตั้งค่าเป็น 90% ของขีดจำกัด
  • หากผู้ให้บริการระบุชั่วคราวว่าเครือข่าย"แออัด" ระบบปฏิบัติการจะเลื่อนเวลาของงาน JobScheduler ที่เลื่อนเวลาได้ เพื่อลดภาระในเครือข่ายของผู้ให้บริการ
  • หากผู้ให้บริการระบุว่าเครือข่ายเป็น"ไม่จำกัดปริมาณ" ชั่วคราว ระบบปฏิบัติการจะรายงานการเชื่อมต่อมือถือเป็น "ไม่จำกัดปริมาณ" จนกว่าผู้ให้บริการจะล้างการลบล้าง หรือจนกว่าจะถึงค่าการหมดเวลา (หากระบุไว้)
  • ระบบปฏิบัติการจะประมาณปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตปกติของผู้ใช้เมื่อสิ้นสุดรอบการเรียกเก็บเงินโดยเปรียบเทียบกับปริมาณอินเทอร์เน็ตโดยรวมที่จำกัดไว้ และจัดสรรอินเทอร์เน็ตส่วนเกิน 10% เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ เช่น โดยการอนุญาตให้แอปใช้อินเทอร์เน็ตหลายเส้นทาง

การปรับแต่งและการตรวจสอบ

แอปการตั้งค่า Android จะแสดงรายละเอียดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่ผู้ให้บริการกำหนดค่าไว้ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้เห็นสถานะความสัมพันธ์ของผู้ให้บริการอย่างแม่นยำที่สุด รวมทั้งเสนอเส้นทางไปยังแอปของผู้ให้บริการเพื่ออัปเกรดแพ็กเกจให้กับผู้ใช้ เราขอแนะนำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ที่เลือกปรับแต่งแอปการตั้งค่าแสดงรายละเอียดเหล่านี้ต่อไป

SubscriptionManager API ที่อธิบายไว้ในหน้านี้ได้รับการทดสอบโดย android.telephony.cts.SubscriptionManagerTest ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าแอปของผู้ให้บริการจะกำหนดค่ารายละเอียดแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตได้ และการเปลี่ยนแปลงจะเผยแพร่ภายในระบบปฏิบัติการ